เช้าเเล้วววว  กินเกาเหลากันเถอะ"เล่าสี่"ร้านตำนานความอร่อยย่านวัดสุทธิที่ขายมาตั้งเเต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก น้ำซุปสูตรเข้มข้น หอมด้วยพริกไทย เครื่องมีตั้งเเต่ ไส้ ม้าม เซี่ยงจี๊ ตับ กะเพาะ หมูชิ้น หมูสับ เลือด ที่หั่นชิ้นใหญ่เต็มคำที่ใส่มาพร้อมผักกาดหอม โรยด้วยกระเทียมเจียว กินตอนร้อนๆอร่อยฟินนนน

เเถมที่ร้านยังมีข้าวหมูทอดไว้ให้ทานกับเกาเหลาอีกเเบบฟินๆกัน

ราคาเกาเหลาอยู่ที่ปกติ 40 บาท พิเศษ 50 บาทเเละข้าวหมูทอดเพียง 35 บาท เท่านั้นแและร้านนี้จุดเด่นของทางร้านคือเครื่องในที่สดและสะอาดไม่มีกินคาวเลย น้ำซุปแทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยเพราะหอมรสชาติกลมกล่อม หากว่าใครต้องการจะปรุงรสชาติเพิ่มเติม จะมีถ้วยน้ำจิ้มเล็กเล็กให้สามารถทำน้ำจิ้มได้เองแบบ DIY 

อาม่าเจ้าของร้าน

เมนูของร้าน

ถ้าใครจะไปเเนะนำไปก่อนเที่ยงจะดีที่สุด 

พิกัด : ปากซอยเจริญกรุง 67 ติดริมถนน ไม่มีที่จอดรถ(สามารถจอดริมถนนหรือจอดในวัดได้เสียค่าจอด10บาท)

 เปิดทุกวัน8.00 - 14.00 น.

สอาดสเต๊ก ร้านสเต๊กในตำนานที่ใครๆก็ต้องเคยทาน เอกลักษณ์ของร้านนี้ คือราคาที่แสนมิตรภาพ และอาหารหลากหลายตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวสเต๊กและไอศครีม ซึ่งแต่ละเมนูเด็ดๆทั้งนั้นเรามาเริ่มกันที่เมนูเเรกกันเลยดีกว่าครับ

หมูทอดเหล้าเเดง55฿

หมูสไลด์มาพอดีคำ เนื้อหมูหมักได้นุ่มพอสมควรเเละราดซอสเหล้าเเดงที่มีรสชาติออกหวานปนเปรี้ยว

นิดๆ

ไส้กรอกทอดกระเทียม55฿

ได้ไส้กรอกมา4ชิ้น ไส้กรอกที่บั้งเเล้วทอดจนกรอบนอกเเต่ข้างในยังมีความเด้งอยู่โรยด้วยกระเทียมที่ทอดมาหอม กรอบกำลังดี เเละภายในจานยังมีข้าวเกรียบ ผักดองเเละผักชี วางมาในจานอีกด้วย

และปิดท้ายด้วยเมนูที่ทานง่าย คล่องคอเเละราคาถูกมากกกกก

ซุปข้าวโพด20฿ 

ซุปนํ้าข้นแบบปานกลาง รสเหมือนครีมข้าวโพดจากข้าวโพดหวานกระป๋อง ตักไปมีเม็ดข้าวโพดเนื้อนุ่ม ได้รสออกหวานมัน

เมนูของร้าน

มาทานช่วงกลางวันลูกค้าแน่นเต็มร้าน ร้านนี้ขายอาหารแบบบ้านๆ ในสไตล์อาหารของคนกรุงเทพฯ แต่ในราคาที่ย้อนยุค ร้านเปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เเบ่งเวลาเปิดเป็น2ช่วง คือ11.00-14.00 เเละ 16.30-22.30

สรุปโดยรวมปริมาณกับราคาอาหารค่อนข้างสมเหตุสมผลเเละบริการก็ไม่ได้ถือว่าเเย่เลยครับ

ที่ตั้งร้าน : ถนน อิสรภาพ กรุงเทพมหานคร (ปากซอยอิสระภาพ 12) 

ใครเป็นแฟนเมนูอบวุ้นเส้น คงมีน้อยคนที่ไม่รู้จัก “สมศักดิ์ปูอบ” สำหรับผมร้านนี้คือตัวท๊อปที่ทำเมนูนี้ได้อร่อยลงตัว เคยเจอบางร้านก็วุ้นเส้นนิ่มเละไป บางร้านก็แข็งไป บางร้านกุ้งก็ไม่สด บางร้านน้ำซอสก็ไม่เข้มข้น และอีกหลากหลายความไม่ลงตัวเมื่อทำเมนูนี้ออกมาแต่จะบอกว่า สมศักดิ์ปูอบ สามารถทำเมนูนี้ได้อย่างดีงาม
วันนี้เราเลือกมาสาขาลาดหญ้า เป็นห้องแถวติดแอร์กันครับ คือมากี่ทีก็ไม่ต้องรอคิว และรออาหารไม่นานเลย

ส่วนที่จอดรถก็เสี่ยงดวงมาหาจอดหน้าร้านครับ ถ้าไม่มีก็วนๆเอาหน่อย ของอร่อยย่อมต้องแลกกับความลำบากเสมอ 

ทางร้านเค้าจะเตรียมกุ้งใส่หม้อไว้พร้อมทำให้รับประทานเลยครับ

ส่วนหอยจะมีหอยเเครงกับหอยเเมลงภู่

น้ำจิ้มซีฟู้ดไว้ทานกับหอย

ได้เเล้ววว เค้าจะยังไม่คลุกนะครับให้เรามาคลุกเอง

 เสร็จเเล้วหน้าตาก็จะออกมาประมาณนี้หม้อนึงจะมีกุ้งประมาณ4ตัว

ขนาดของกุ้งที่เเกะเปลือกเเล้ว

#สรุปเเล้วก็เหมือนเดิมครับ เส้นเหนียวนุ่ม กุ้งมีความสด อร่อยเเต่ได้น้อยไปนิดนึง555555

ที่ตั้ง : ถนนลาดหญ้า เปิดทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 16.00 -  22.00 น.

มาจัดหนักจัดเต็มกันหน่อยครับ สำหรับร้านนี้แล้วก็ถือเป็นอีกร้านที่ถูกและอร่อย ร้านชื่อว่า ชาบู หลังมอ เพลินพุง ร้านจะอยู่หลังมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาครับ อยู่ซอยอิสรภาพ 13 ซึ่งจะมีชุดเล็ก ราคา 89 บาทเเละชุดใหญ่ 199 บาทครับ หรือใครกลัวจะกินไม่หมดจะสั่งแยกก็ได้ครับราคาเริ่มต้นเพียงถาดละ15บาท แล้วที่ร้านจะมีน้ำจิ้ม2เเบบคือน้ำจิ้มซีฟู้ดเเละน้ำจิ้มชาบู ส่วนน้ำซุปมีให้เลือกถึง3อย่างด้วยกัน คือ น้ำดำ น้ำต้มยำเเละน้ำใส

Photo by foody

Photo by foody

เชื่อว่าหากใครเห็นอาหารของร้านนี้ รับรองว่าต้องรีบจดที่อยู่ แคนเซิลงาน และชวนเพื่อนไปถล่มร้านเป็นเเน่ ถึงเเม้เมนูจะมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่เเต่มั่นใจว่าใครที่ได้ลองต้องมีกลับมากินซ้ำรอบสองเเน่นอนเพราะทั้งของที่คุณภาพดี น้ำจิ้มเเซ่บๆรวมไปถึงน้ำซุปที่รสชาติที่กลมกล่อมทำให้คนที่ได้ลองเป็นต้องติดใจ

Photo by foody

Photo by foody

ใครผ่านมาเเถวนี้ก็อย่าลืมเเวะมาทานที่ร้านนี้นะครับของถูกเเละมีคุณภาพดีมีอยู่จริง

ที่ตั้ง : หลังราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซอยอิสรภาพ 13เปิดให้บริการวันอาทิตย์-วันศุกร์ 
เวลา : 10.30-20.00 น.

ร้านข้าวหมูทอดที่มีมากกว่าหมูทอด ยังมีบะหมี่หมูทอด เกี๊ยวหมู เกี๊ยวกุ้ง ข้าวหมูทอดมีให้เลือกทานในราคา 20 บาท ถ้าอยากชิมสุดๆ ต้องมาที่สี่แยกบ้านแขก และพุทธมณฑลสาย 1 
ทางร้านมี 2 สาขา เมนูข้าวหมูทอด บะหมี่ เกี๊ยวหมู ต้มยำกุ้ง ต้มแซ่บน่องไก่แต่ถ้าไม่อยากฝ่าจราจรด้วยตัวเองทางร้านมีบริการส่งด้วยนะครับ

อีกร้านของดีราคามิตรภาพที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน โดยสาขาที่ไปทานมานี้จะเป็นสาขาต้นตำรับตัวร้านจะตั้งอยู่หน้าถนนแถวสี่แยกบ้านแขกตรงข้ามสถานพยาบาลนันอาเมนูค่อนข้างหลากหลายทั้งบะหมี่, เกี๊ยว, ต้มยำ และต้มแซ่บต่างๆ แต่เด่นที่สุดคงไม่พ้นเมนูหมูทอดของทางร้าน วันที่ไปทานโชคดีได้นั่งในโซนห้องแอร์ข้างในซอย เลยทำให้ไม่ค่อยร้อน บรรยากาศร้านด้านในจะตกแต่งแนวเรโทร มีของเล่นของสะสมเก่าๆเพียบรอบร้านตามจุดต่างๆจะติดป้ายว่า"เน้นคุณภาพไม่เน้นบริการ"แต่บริการก็ดีนะไม่ได้แย่อะไร พนักงานสุภาพและดูกระตือรือร้นดี ข้าวหมูสามชั้นทอด (พิเศษ) 

- หมูสามชั้นทอดหมักมาได้รสชาติดีไม่กระด้าง มันไม่เยอะ แต่หนังแอบเคี้ยวยากนิดนึง ข้าวนุ่มหุงสวย ไม่แฉะไม่เละ ไข่ดาวกรอบนอกนุ่มในแต่ที่ชอบที่สุดคือพริกน้ำปลาของที่นี่จะเป็นพริกขี้หนูล้วนสับหยาบเหยาะทานกับอะไรก็อร่อยข้าวหมดเป็นชามๆเลยทีเดียว ทั้งหมดเสิร์ฟมาคู่กันกับน้ำซุปผักกาดดองไว้ให้ซดคล่องคอโดยรวมถือว่าอร่อยคุ้มสุดๆ

ต้มยำกุ้งหม้อไฟน้ำข้น 

- น้ำต้มยำรสไม่จัด หวานนำไปหน่อย ให้กุ้งก้ามกรามตัวเล็กมาประมาณ 4-5 ตัว แต่มีมันแก้วทุกตัว ฟินไปอีก 

ข้าวหมูทอด+ไข่ดาว

บรรยากาศภายในร้าน

โดยรวมเเล้วเป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกเเละอร่อยถ้าใครได้ผ่านมาเเถวสี่เเยกบ้านเเขกก็อย่าลืมไปลองทานกันนะครับ

ที่ตั้งร้าน : สี่เเยกบ้านเเขกมุ่งหน้าไปทางสะพานพุทธ ถนนอิสรภาพ เเขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี

เวลาเปิดปิด จันทร์-ศุกร์ เปิด11.00-22.00 น.

                   เสาร์-อาทิตย์ เปิด 10.00-22.00 น.

                                

กลิ่นหอมๆ ของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ไม่ว่าจะเดินผ่านครั้งใดก็เหมือนมีคนกวักมือเรียกให้เข้าไปลองชิมความอร่อยอยู่เสียทุกครั้งไป เหมือนอย่างครั้งนี้ที่ “ผ่านมาแวะกิน” นั่งรถเมล์สาย 62 มาจนสุดสายที่ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ ก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นอยู่บริเวณท่าน้ำ ส่งกลิ่นเนื้อตุ๋นอันหอมหวนชวนกินมาเรียกความหิวในกระเพาะ 

ร้านนี้มีชื่อว่า “เนื้อตุ๋นท่าน้ำสาธุประดิษฐ์” ที่เปิดขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นสูตรอร่อยสไตล์ไทย ใช้สมุนไพรไทยๆ ในการตุ๋นเนื้อจนออกมาหอมกรุ่นชวนกิน ซึ่งนอกจากความอร่อยที่ขึ้นชื่อแล้ว ที่ร้านนี้ยังมีการตั้งชื่อเมนูแบบเก๋ๆ เพื่อเรียกให้ลูกค้าสนใจและพูดคุยสอบถามกับทางร้านได้อย่างเป็นกันเอง 

อย่างเมนูแรก อนุบาล (60 บาท) เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นชามเล็ก ที่มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ และบะหมี่ ตัวน้ำซุปเนื้อได้มาจากการต้มตุ๋นเนื้อรวมกับสมุนไพร 5-6 ชั่วโมง ได้ออกมาเป็นน้ำซุปใส ซึ่งลูกค้าก็สามารถเลือกได้ว่าจะกินเป็นน้ำซุปใสหรือน้ำตก ส่วนเนื้อตุ๋นใช้เนื้อพื้นท้องนำไปตุ๋นในน้ำซุปจนได้ที่ เนื้อตุ๋นรสชาติดี เคี้ยวนุ่มอร่อยหอม กับน้ำซุปหวานหอมกลมกล่อม กินแล้วอร่อยเพลิน

เขยิบมาชิมชามใหญ่กันบ้าง มัธยม (100 บาท) ชามนี้ก็เป็นก๋วยเตี๋ยว ที่ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเส้นได้ตามชอบ หรือจะสั่งเป็นเกาเหลาก็ได้ โดยสามารถเลือกใส่เครื่องได้ทั้งลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นเอ็น เนื้อสด เนื้อตุ๋น เนื้อลาย ตับ หัวใจ ผ้าขี้ริ้ว เอ็น ไส้ เนื้อน่อง ม้าม ขอบกระด้ง และลิ้น และยังใส่ผักบุ้งไทยมาด้วย อย่างชามนี้เราสั่งเป็นเกาเหลามากินคู่กับ ในนา (10 บาท) หรือข้าวสวยนั่นเอง 

  ยิ่งกินชามยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย มากันที่ มหาลัย (120 บาท) ชามนี้ก็คล้ายๆ กับมัธยม แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้น จะเลือกสั่งมากินคู่กับข้าวสวย หรือเป็นเมนูสำหรับเติมในหม้อไฟก็ได้ ซึ่งเครื่องเคราแต่ละอย่างที่ใส่มานี้ ลูกค้าก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ และแต่ละอย่างก็ผ่านการล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดี ก่อนจะนำมาต้มตุ๋นจนได้ที่ กินแล้วเคี้ยวอร่อย เนื้อนุ่ม เครื่องในก็ไม่มันและไม่คาว

ปิดท้ายที่ความอลังการ ปริญญา (250 บาท) เมนูนี้เป็นหม้อไฟที่เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ เดือดๆ ให้ได้ชิมความอร่อยของน้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อมได้รสชาติ เครื่องเคราแต่ละอย่างก็กินอร่อยเพลินปาก เมนูนี้ชวนเพื่อนฝูงมากินร่วมสาบานด้วย แป๊บเดียวก็หมดหม้อ 

**ขอกระซิบบอกเคล็ดลับความอร่อยอีกอย่างหนึ่ง คือ ที่ร้านจะมีเต้าหู้ยี้วางเอาไว้ที่โต๊ะ ให้ลูกค้าตักไปปรุงน้ำซุปให้ได้รสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น “ผ่านมาแวะกิน” ลองชิมดูแล้วก็พบว่าเต้าหู้ยี้นี้เข้ากันกับก๋วยเตี๋ยวเนื้อจริงๆ 

 ร้าน “เนื้อตุ๋นท่าน้ำสาธุประดิษฐ์” ตั้งอยู่ที่  ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. การเดินทางจากถนนสาธุประดิษฐ์ ตรงไปที่ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ เข้าซอยอู่รถเมล์สาย 62 จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ บริเวณทางลงท่าน้ำ สามารถจอดรถได้บริเวณด้านหน้าร้าน ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ ร้านเปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-18.00 น. วันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น.

ผมได้มีโอกาสได้ลองไปทานอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ เดอะ สแควร์ โนโวเทลวันนี้เลยนำภาพและบรรยากาศต่างๆมาให้เพื่อนๆได้ชมกันเผื่อท่านใดเป็นคออาหารญี่ปุ่น และชอบทานแซลมอน จะได้ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาลองชมและชิมไปพร้อมๆกันเลยครับ

โดยบุฟเฟ่ต์ "Seriously Salmon" นี้ พึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมานี้เอง เป็นบุฟเฟ่ต์แซลมอนจัดเต็ม

ให้คนที่ชอบ แซลมอน ได้อิ่มหมีพีมันกับเมนูแซลมอนที่หลากหลาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน

ในราคาเพียง 999 บาท++/ท่าน ทุกวันอาทิตย์ – พฤหัสบดี ตั้งแต่ 18:00 – 22:00 น.

ที่ห้องอาหารเดอะ สแควร์ ชั้น 6 โรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลตินัม ประตูน้ำ (Novotel Bangkok Platinum)

ซึ่งตั้งอยู่ตึกเดียวกับ แพลตินั่ม ประตูน้ำ ศูนย์รวมชอปปิ้งมอลใจกลางเมืองนี่เองครับ 

บรรยากาศของห้องอาหารตกแต่งได้อย่างสวยงาม ดูทันสมัย และนำหุ่นแต่งกายเสื้อผ้าแฟชั่น

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแหล่งช้อปปิ้ง อย่างแพลตินั่ม ประตูน้ำ เหมาะมากสำหรับคุณผู้หญิงที่ช้อปเหนื่อยๆ

แล้วมานั่งหาอะไรทานเบาๆ เพื่อเติมพลังให้กับตัวเองครับ

บรรยากาศภายในห้องอาหารใหญ่มาก การจัดวางโต๊ะวางแยกออกแบ่งเป็นโซนๆ แถมมีเก้าอี้โซฟาให้นั่งทานสบายมาก

ผมชอบการตกแต่ง และการจัดวางโต๊ะของที่นี่ คือ มันดูสบายๆ ไม่แออัด และยังดูทันสมัย ด้วยดีไซน์แฟชั่นที่นำมาตกแต่งด้วย

การจัดวางอาหารแยกออกจากกันอย่างชัดเจน สามารถเดินเลือกตักกันได้สบายๆไม่แอร์อัดครับ

เรามาเริ่มดูในส่วนของอาหารของทางโรงแรมกันบ้างดีกว่า ว่าจะมีอะไรให้เราทานกันบ้าง

เริ่มกันที่ แซลมอนซาชิมิ ซูชิ และ ปลาแซลมอน กันก่อนเลย

เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ ก็มีนะครับ รวมไปถึงติ่มซำด้วย 

หรือจะเป็น อาหาร พวกปิ้งย่าง ก็มี เราสามารถเลือกเมนูตามใจชอบและนำไปให้ทางเชฟ ปรุงรสแล้วก็นั่งรอได้เลย

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ บุฟเฟ่ต์แซลมอน และอาหารนานาชาติของ ห้องอาหารเดอะ สแควร์

โรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลตินัม ประตูน้ำ (Novotel Bangkok Platinum)

สำหรับผมแล้วถือว่าคุ้มค่าสมราคาทีเดียว เพราะด้วยเนื้อแซลมอนชิ้นโตๆ มาพร้อมกับ เมนูที่หลากหลาย

งานนี้คนที่ชอบทานแซลมอนและซูชิ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

และนี่คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับท่านที่ชอบทานบุฟเฟ่ต์ครับ อย่าพึ่งเชื่อจนกว่าจะได้มาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง
สำหรับวันนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมกันมาตลอด หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย